แกงกระด้าง : เมนูวุ้นหมูมหัศจรรย์ สูตรโบราณล้านนา หาทานยาก


แกงกระด้าง เป็นหนึ่งในอาหารพื้นเมืองของภาคเหนือที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด เพราะมันคือ "แกงที่กินแบบเย็น" หรือเรียกง่าย ๆ ว่า "วุ้นหมูรสชาติแกง" นั่นเอง! เมนูนี้เกิดขึ้นจากภูมิปัญญาชาวบ้านในการถนอมอาหาร โดยการนำซี่โครงหมูมาต้มและเคี่ยวกับเครื่องแกงจนน้ำซุปมีความเข้มข้น เมื่อนำไปแช่เย็น น้ำซุปที่อุดมด้วยคอลลาเจนจากกระดูกจะ "กระด้าง" หรือ "แข็งตัว" กลายเป็นวุ้นใส ๆ ที่หอมเครื่องเทศและเต็มไปด้วยเนื้อหมู! 

ถ้าคุณกำลังมองหาเมนูที่แปลกใหม่ น่าสนใจ และไม่ซ้ำใครเพื่อทำคอนเทนต์ หรืออยากลองทำอาหารเหนือแท้ ๆ ที่หาทานยาก แกงกระด้าง คือคำตอบที่สมบูรณ์แบบที่รับรองว่าจะเป็นไวรัลอย่างแน่นอน!

ทำไมแกงกระด้างถึงต้องเป็นไวรัล? 

ความมหัศจรรย์ของวุ้น: ผู้คนจะทึ่งกับเมนูที่เปลี่ยนสภาพจากน้ำแกงร้อน ๆ กลายเป็นวุ้นเย็นเฉียบได้อย่างไร 

เมนูตามฤดูกาล: แกงกระด้างมักทำในช่วงหน้าหนาวในภาคเหนือ ซึ่งเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจในการนำเสนอ 

รสชาติที่ไม่เหมือนใคร: มันคือการรวมกันของความเข้มข้นของเครื่องแกงเผ็ดร้อนและความเย็นสดชื่นเมื่อทาน ทำให้มีมิติของรสชาติที่น่าตื่นเต้น


ส่วนผสมและวัตถุดิบ (สำหรับ 4-5 ท่าน)

ส่วนของหมู 

1. ขาหมูส่วนคาจัก (ข้อต่อ) หรือ ซี่โครงหมูติดกระดูก: 800 กรัม - 1 กิโลกรัม (ส่วนที่มีคอลลาเจนเยอะจะทำให้น้ำแกงแข็งตัวง่าย) 

2. น้ำเปล่า หรือ น้ำซุปกระดูกหมู: 1.5 - 2 ลิตร


ส่วนผสมพริกแกงกระด้าง (เคล็ดลับความหอมเข้มข้น) 

1. พริกแห้งเม็ดใหญ่ แช่น้ำให้นิ่ม: 10-15 เม็ด 

2. ข่า หั่นแว่น: 5 แว่น 

3. ตะไคร้ ซอย: 2 ช้อนโต๊ะ 

4. หอมแดง ปอกเปลือก: 5 หัว 

5. กระเทียม ปอกเปลือก: 10 กลีบ 

6. ขมิ้น (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้): 1 ชิ้นเล็ก (เพิ่มสีสัน) 

7. เกลือป่น: 1/2 ช้อนชา 

8. กะปิ (กะปิอย่างดี): 1/2 ช้อนชา


เครื่องปรุงรสและตกแต่ง 

1. น้ำปลา: 1-2 ช้อนโต๊ะ (สำหรับปรุงรสเพิ่ม) 

2. ผักชี, ต้นหอม ซอย: สำหรับโรยหน้า 

3. พริกทอด: สำหรับตกแต่งและทานคู่ 

4. กระเทียมเจียว: สำหรับทานคู่ (เพิ่มความหอม)


วิธีทำแกงกระด้าง (แบบละเอียด เคล็ดลับให้ "กระด้าง" ไว) 


ขั้นตอนที่ 1: เตรียมหมูและเคี่ยวน้ำซุปคอลลาเจน
 

- ล้างหมู: นำ ขาหมู/ซี่โครงหมู ไปล้างให้สะอาด (อาจลวกน้ำร้อนทิ้งเพื่อกำจัดคาว) 

- เคี่ยวหมู: ใส่หมูและ น้ำเปล่า ลงในหม้อ ตั้งไฟแรง เมื่อน้ำเดือดให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน แล้ว เคี่ยวไปเรื่อย ๆ อย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง (ยิ่งนานยิ่งดี) ห้ามปิดฝา และหมั่นช้อนฟองออก 

- จุดสังเกต: น้ำซุปจะเริ่มงวดลงประมาณ 1 ใน 3 และมีความข้นเหนียวเล็กน้อยจากคอลลาเจนที่ละลายออกมา 


ขั้นตอนที่ 2: โขลกพริกแกง
 

- นำ พริกแห้ง และ เกลือป่น โขลกรวมกันให้ละเอียด ใส่ ข่า, ตะไคร้, หอมแดง, กระเทียม, ขมิ้น (ถ้าใช้) โขลกต่อให้เข้ากัน 

- สุดท้าย ใส่ กะปิ โขลกให้เป็นเนื้อเดียว 


ขั้นตอนที่ 3: ปรุงแกงกระด้าง
 

- ตัก เนื้อหมู ที่เคี่ยวจนเปื่อยแล้วออกจากหม้อแกง (เก็บน้ำซุปไว้) พักไว้ให้พอเย็น แล้วฉีกเนื้อหมูให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ (ไม่ต้องละเอียดมาก) 

- ตัก พริกแกง ที่โขลกไว้ ลงไปผัดในกระทะเล็กน้อยให้หอม (ถ้าชอบ) หรือจะนำไปละลายในน้ำซุปที่กำลังเดือดก็ได้ 

- นำพริกแกงที่ละลายแล้ว ใส่กลับลงในหม้อน้ำซุป คนให้เข้ากัน 

- ใส่ เนื้อหมูฉีก ลงไปในหม้อ ปรุงรสด้วย น้ำปลา ชิมรสชาติให้ออกเค็ม เผ็ดเล็กน้อย และหอมเครื่องเทศ 


ขั้นตอนที่ 4: การเทและการทำให้ "กระด้าง" (เคล็ดลับสำคัญ)
 

- กรองน้ำซุป (ถ้าต้องการความใส): สามารถกรองน้ำซุปที่ปรุงรสแล้วผ่านกระชอนตาถี่เพื่อเอาเศษเล็ก ๆ ออกไปก่อน 

- ตักใส่ภาชนะ: ตักแกงที่ยังมีน้ำซุปอยู่ ใส่ลงในถาดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ เกลี่ยเนื้อหมูให้กระจายเท่ากัน (อย่าให้เนื้อหมูมากเกินไปจนน้ำซุปไม่สามารถแข็งตัวได้) 

- แช่เย็น: นำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดา ข้ามคืน หรืออย่างน้อย 5-6 ชั่วโมง จนวุ้นแข็งตัวดี (กระด้าง) 


ขั้นตอนที่ 5: จัดเสิร์ฟ
 

- เมื่อแกงกระด้างแข็งตัวดีแล้ว ใช้มีดกรีดขอบแล้วคว่ำออกจากถาด หรือตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า 

- จัดใส่จาน โรยหน้าด้วย ผักชีต้นหอมซอย และ กระเทียมเจียว/พริกทอด 

- ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ หรือข้าวเหนียว พร้อมกับพริกน้ำปลา หรือน้ำพริกตาแดง เพื่อเพิ่มรสชาติจัดจ้าน (การทานเย็น ๆ กับของร้อน ๆ จะเป็นที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยลอง)

0 ความคิดเห็น